แถลงการณ์ฉบับที่ ๑๑

เพื่อสนับสนุนการต่อสู้ของสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการรถไฟแห่งประเทศไทย “ร่วมต่อต้านกลุ่มทุนการเมืองชุดใหม่ฮุบรถไฟไทย เปิดโปงมะเร็งร้ายคอรัปชั่นตามนโยบายกัดกินชาติ

 
เครือข่ายภาคประชาสังคม และ พี่น้องประชาชนที่รักทั้งหลาย
                        ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติในวันที่ ๓ มิถุนายน เห็นชอบแผนฟื้นฟูกิจการการรถไฟแห่งประเทศไทย ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอมา โดยมีสาระสำคัญในการจัดตั้งบริษัทเอกชนขึ้นสองบริษัท เพื่อถ่ายโอนภารกิจการเดินรถ และการจัดการเพื่อแสวงหาประโยชน์จากทรัพย์สินคือที่ดินของการรถไฟกว่าสองแสนห้าหมื่นไร่ทั่วประเทศ ปล่อยหนี้สินคงค้างและภาระปัญหาในการบริหารจัดการไว้ที่ซากเดิมของการรถไฟ และปล่อยให้เป็นภาระที่รัฐต้องรองรับดูแล จนเป็นเหตุให้สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการรถไฟแห่งประเทศไทยดำเนินกระบวนการต่อสู้ คัดค้านถึงขั้นสูงสุด คือ การนัดหยุดการเดินรถทั่วประเทศ

 

                        ขบวนประชาธิปไตยยาตรา Democracy Move  ซึ่งเป็นขบวนการเคลื่อนไหวทางการเมืองภาคประชาชน ที่เป็นตัวแทนของเครือข่ายภาคประชาสังคมทั่วประเทศ จึงมีความเห็นและท่าทีต่อประเด็นดังกล่าว ดังต่อไปนี้

                        ๑) ต่อประเด็นความชอบธรรมของการเคลื่อนไหวต่อสู้ของสหภาพฯ การรถไฟ ในการนัดหยุดการเดินรถนั้น แม้จะก่อผลเสียหายแก่ประชาชนบางส่วนที่เป็นผู้โดยสารนั้น แต่หากพิจารณาถึงมูลเหตุสำคัญของการปฏิบัติการดังกล่าวของสหภาพฯ ก็ยอมรับได้ถึงจุดยืนในการพิทักษ์ผลประโยชน์โดยรวมของกิจการรถไฟไทย อันเป็นผลประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติ และยืนยันในการปกป้องผลประโยชน์โดยตรงของประชาชนที่เป็นผู้โดยสารในระยะยาวอีกด้วย   ดังนั้น ขบวนประชาธิปไตยยาตรา จึงมีท่าทีสนับสนุนการต่อสู้ที่เป็นธรมของสหภาพฯการรถไฟ อย่างเต็มที่ พร้อมทั้งยืนยันที่จะสนับสนุนการต่อสู้ของพี่น้องแรงงานการรถไฟอย่างถึงที่สุด ด้วยปฏิบัติการจริงตามเงื่อนไข ศักยภาพของเครือข่ายประชาสังคมทั่วประเทศ โดยมุ่งเน้นในการสร้างกระบวนการเรียนรู้ การสื่อสารในชุมชนท้องถิ่นอย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อหนุนเสริมการต่อสู้ของพี่น้องแรงงานการรถไฟให้ได้รับชัยชนะอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดโดยเร็วที่สุด
                        ๒)  เราพิจารณาเห็นว่ามูลเหตุที่เป็นเบื้องหลังความพยายามในการปฏิบัติการฮุบกิจการรถไฟไทยครั้งนี้ เป็นไปเพื่อสร้างโอกาสรองรับการแสวงประโยชน์ของกลุ่มทุนการเมืองกลุ่มใหม่ในรัฐบาลชุดปัจจุบัน ที่มีอิทธิพลสูงเด่นจากการเป็นตัวแปรสำคัญในการจัดตั้งรัฐบาลและใช้เป็นเงื่อนไขต่อรองเพื่อเข้าคุมกระทรวงสำคัญที่อุดมด้วยผลประโยชน์มหาศาล ทั้งที่ก่อนหน้านี้กลุ่มทุนการเมืองกลุ่มใหม่นี้จะมีกรณีการครอบครองที่ดินการรถไฟโดยมิชอบมาแล้วในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ รวมทั้งกลุ่มทุนก่อสร้างที่สนับสนุนกลุ่มและพรรคการเมืองนี้ยังชนะการประมูลก่อสร้างเส้นทางเดินรถพิเศษจากสนามบินอย่างมีเงื่อนงำในการแสวงประโยชน์โดยมิชอบมูลค่านับหมื่นล้านบาทในยุคระบอบทักษิณ จนเป็นเหตุให้ถูกคณะกรรมการ คตส.เข้าตรวจสอบกว่า ๒ ปีและรอดพ้นเนื่องจากสิ้นวาระของ คตส. ซึ่งสะท้อนความมีมูลเหตุที่น่าเชื่อในพฤติกรรมอันน่าวิตกกังวลของกลุ่มทุนการเมืองกลุ่มใหม่นี้ เมื่อเข้ามามีบทบาทในการกำกับนโยบาย และผลักดันแผนฟื้นฟูรถไฟไทยนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความกังวลในการฮุบกิจการการรถไฟโดยการแปรรูปการบริหารในรูปแบบบริษัทเอกชนเพื่อรองรับโครงการเม็กกะโปรเจ็ค เช่น การวางรางคู่ทั่วประเทศ การก่อสร้างรถไฟฟ้าทางด่วนพิเศษเพื่อต่อเชื่อมกับระบบการขนส่งพิเศษในกรุงทพมหานครฯ โครงการรถไฟหัวกระสุนกรุงเทพฯ-โคราช เหล่านี้ป็นต้น ซึ่งเป็นส่วนแบ่งมูลค่ามหาศาลกว่าสองแสนล้านบาทจากเม็ดเงินกู้ ตาม พรก.เงินกู้แปดแสนล้านบาทของรัฐบาลนั่นเอง
                        ๓) เราเห็นว่าประเด็นการต่อสู้เพื่อต้านกลุ่มทุนการเมืองกลุ่มใหม่เข้าฮุบกิจการรถไฟของพี่น้องสหภาพแรงงานฯ การรถไฟ ครั้งนี้ จึงเป็นการจุดประกายไฟแห่งความป็นจริงที่ส่องสว่างให้สังคมได้เห็นชัดถึงข้อเท็จจริงแฝงเร้นในการแสวงประโยชน์ตามน้ำในนโยบายสวยหรูของรัฐในข้ออ้างการกู้เงินมหาศาลและทุ่มเทลงในโครงการต่างๆเพื่อกอบกู้วิกฤติเศรษฐกิจนั้น จะเป็นช่องทางให้กลุ่มทุนการเมืองกลุ่มใหม่ ที่พยายามมาแทนระบอบทักษิณเข้าสอดรับกัดแทะผลประโยชน์จากงบประมาณแปดแสนล้านบาทนี้อย่างคึกคักยิ่งนัก ไม่ว่าจะเป็นกรณีความพยายามแปรรูปการรถไฟนี้ หรือ กรณีโครงการถนนปลอดฝุ่นที่ตั้งราคากลางใว้สูงถึงกิโลเมตรละ ๔ ล้านกว่าบาททั้งที่ต้นทุนจริงทำได้เพียง กม.ละล้านกว่าบาทเท่านั้น และด้วยวิธีการประมูลจัดซื้อที่เอื้ออำนวยต่อการกระจายการคอรัปชั่นตามน้ำตามนโยบายนี้ไปยังหัวคะแนนกลุ่ม พรคการเมืองเหล่านี้ในระดับพื้นที่ทั่วประเทศ มีมูลค่าโครงการถึงแสนกว่าล้านบาท  นอกจากนี้ยังมีโครงการสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งใหม่ โครงการมอเตอร์เวย์ รถไฟฟ้า รถไฟรางคู่ ฯลฯ
                        ขบวนประชาธิปไตยยาตรา และ ภาคีพันธมิตร อันขยายไปยังเครือข่ายภาคประชาสังคมทั่วประเทศ มีจุดยืนในการต่อต้านการทุจริต คอรัปชั่น ทุกรูปแบบ อันเสมือนหนึ่งมะเร็งร้าย ที่เกาะกินประเทศชาติ บั่นทอนความแข็งแรงของรัฐ สลายความชอบธรรมของรัฐบาลลงอย่างยิ่ง
                        เราจึงเห็นว่าพลังทางสังคมที่มีคุณภาพและคุณธรรมเป็นเส้นชีวิต จักต้องร่วมส่วนในการเปิดโปงสภาพเลวร้ายดังกล่าวอย่างแข็งขัน จริงจัง เพื่อยกระดับการเรียนรู้ของประชาชน อันนำสู่การตื่นรู้ และตื่นตัวของประชาชนพลเมืองไทยในท้ายสุด ดังเช่น ที่พี่น้องสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการรถไฟ ได้ลุกหยัดยืนขี้นมาทำหน้าที่พลเมืองผู้ตื่นรู้ และเข้าปฏิบัติการจริงในการต่อสู้ อย่างเด็ดเดี่ยว มุ่งมั่น ซึ่งสมควรได้รับการค้อมคารวะ ณ โอกาสนี้
 
      ด้วยจิตคารวะ
 
เครือข่ายขบวนประชาธิปไตยยาตรา Democracy Move
                        ข่ายประชาสังคม เพื่อการปฏิรูปสังคม
                        สถาบันชุมชนท้องถิ่นพัฒนา (LDI)
                        สมาคมองค์กรสาธารณประโยชน์เพื่อสังคมไทยเข้มแข็ง(สxส)
                        สมาคมเครือข่ายอาสาสมัครนักสื่อสารชุมชน(ค.อสช.)
                        เครือข่ายวิทยุชุมชน ๗ ภูมิภาค ๓๐๐ สถานี
                        เครือข่าย ป.ป.ป. ภาคประชาชน
 
                                                            ๒๓ มิถุนายน ๒๕๕๒

Be the first to comment on "แถลงการณ์ฉบับที่ ๑๑"

Leave a comment

Your email address will not be published.