โดยหมอทวี
ทหารป่าจำเป็นแบบพวกเรา ชาวสหายนักศึกษาทั้งชายหญิง มักมีปัญหาเหมือนกันอยู่อย่างหนึ่งคือหลงทาง
ผมก็คนหนึ่งแหละ จำที่จำทางไม่ค่อยเก่ง ขนาดทุกวันนี้ที่ทางในเมืองยังจำไม่ค่อยได้ ถูกเมียดุเป็นประจำ บ่อยที่สุดก็คือจอดรถในห้างสรรพสินค้าแล้วขากลับหารถไม่เจอ ต้องเดินวนเวียนเหมือนเสือติดจั่น
แต่ในภูมิประเทศที่เป็นป่าทึบยิ่งยากกว่านั้น เพราะมองไปทางไหนมันเหมือนๆกันหมด มันไม่มีป้ายหรือสัญญาณบอกทางใดๆให้เราสังเกตุได้เลย ต้องหาสิ่งสังเกตุจดจำกันเอาเอง
ผมนึกทึ่งในความสามารถของคนบ้านป่า แบบสหายชาวนาทั้งหลายแหล่ พวกเขาไม่รู้จดจำทางในป่าทึบและภูเขาสูงกันได้อย่างไร จะว่าพวกเขาใช้วิธีดูดวงตะวันเพื่อบอกทิศนำทาง ก็บางทีในป่าทึบมันมองไม่เห็นพระอาทิตย์เลย พวกเขาก็ยังนำพาไปได้ถูกทาง
นี่กระมังที่เขาเรียกว่าภูมิปัญญาท้องถิ่นอันติดอยู่ในตัวคน ท่องตำราเท่าไรก็ไม่เกิด เพราะมันมากับประสบการณ์ในชีวิต


เวลาเราออกปฏิบัติทุกครั้ง ผู้บังคับบัญชาฝ่ายทหารจะทำการซักซ้อมแผนการอย่างละเอียด รวมทั้งกำหนดจุดนัดหมายว่า ถ้าหากเกิดปะทะกับข้าศึกและแตกขบวนออกไป เราจะไปพบกันที่จุดใด และใช้ระหัสสัญญาณแสดงตัวกันอย่างไร
สหายในหน่วยทุกคนต่างพยักหน้าแสดงว่าเข้าใจตรงกัน ส่วนผมก็พยักหน้าไปยังงั้นๆ ในใจคิดว่าถ้าเป็นเราคงเสร็จแหงแก๋ แต่อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด ไปว่ากันเอาดาบหน้าดีกว่า
ผมว่านะ พวกสหายจากเมืองทุกคนคงเคยหลงป่าแบบผมบ้าง ไม่มากก็น้อย เพราะเท่าที่ทราบ พวกที่”ตกไกล”ไปยิ่งกว่าผมก็มีหลายคน ขนาดออกไปขี้ในป่าข้างทับที่ตั้งเพียงแป้บเดียวก็ยังหลงทางกลับบ้านไม่ถูกก็เคยมี เล่นเอาเพื่อนฝูงต้องออกตามหา บ่อยครั้งต้องยิงปืนส่งสัญญาณกันให้ดังขรม
พูดถึง “หลุมขี้” ของสหาย ก็มีเรื่องน่าขบขันอยู่ไม่น้อย เวลาที่เราตั้งทับชั่วคราวอยู่ที่ใดที่หนึ่งเรามักไม่ได้ทำหลุมส้วมที่เป็นเรื่องเป็นราว ต่างคนต่างต้อง”จัดการตนเอง”ไปต่างๆนานา ส่วนใหญ่ก็มักถือจอบ เสียมหรือมีดปลายแหลมติดมือไปด้วย ใช้ขุดและกลบให้เรียบร้อยเหมือนแมวที่เราเลี้ยงที่บ้านยังไงยังงั้น
ส่วนจะไปหาที่ทางตรงไหนเป็นที่ปลดทุกข์ส่วนตัว มันก็มีปัจจัยตัวแปรหลายอย่างนะ บางทีขึ้นอยู่กับความหนักเบาของธุระส่วนตัวในขณะนั้น ความหน้าบางหน้าหนาของเจ้าตัว ความมักง่ายมักยาก และความกลัวหลงป่าก็ด้วย
ผลก็คือเกิดหลุมกับระเบิดของสหายกระจายตัวอยู่โดยรอบ บ้างก็กลบมิดชิด บ้างก็ทำพอเป็นพิธี ที่เรี่ยราดก็มีให้เห็น บางทีมันก็มีข้อดีอยู่นะ คือว่ามันเป็น”ข้อบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์”ที่ทำให้เราสามารถใช้เพื่อ”แกะรอย” ติดตามไปสู่ที่ตั้งของสหายได้
คราวใดที่ขาดแคลนข้าวขาว ต้องพากันกินข้าวปนข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ขี้ของพวกสหายก็จะเต็มไปด้วยเม็ดข้าวโพดเหลืองอร่าม เวลากินข้าวปนถั่วแดงหรือถั่วดำก็จะเปลี่ยนสีไปตามเหตุปัจจัย ถ้าเป็นหัวมันเสาร์มันเลือดก็ออกสีแหล่ๆแดงๆ ราวกับภาพศิลปะ
พวกเราที่เป็นหน่วยจรยุทธ์ มีภารกิจที่ต้องออกปฏิบัติการในแนวหน้าและเขตขาวเป็นเวลานานๆ เวลากลับมาฐานที่มั่นเพื่อพบปะประชุมร่วมกับสหายนำตามโอกาสต่างๆ ก็เหมือนได้มาพักร้อนอ่ะน่ะ แต่ก่อนจะเข้าถึงที่ตั้งก็มักต้องเดินผ่านย่านอันตรายเหล่านี้
คราวหนึ่งมีสหายเกิดไปเหยียบทุ่นที่ว่าเข้าจังเบ้อเร้อ ทั้งโมโหทั้งเกิดอารมณ์ขันจึงร้องตะโกนบอกพรรคพวกว่า
“ข่าวร้ายๆๆครับสหาย ….ผมเหยียบขี้เข้าแล้ว!”
“แต่ข่าวดีก็มีครับสหาย….เที่ยวนี้ไม่มีข้าวโพด!!”
ทราบแล้วเปลี่ยน ครับผม”
อิ อิ อิ .
