สาธารณรัฐเลบานอน : ถิ่นฐานรกรากชาวฟีนีเชียน ตอนที่ 9 บาลเบ็ค

บันทึกการเรียนรู้โดย พลเดช ปิ่นประทีป

คณะของเราเดินทางข้ามเขาเลบานอน เพื่อเข้าสู่เมืองบาลเบ็ค (Baalbek)  

ที่นี่มีศาสนสถานของโรมันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศเลบานอน

เทวสถานบาคคัส

เทวสถานบาคคัส เมืองบาลเบ็ค (Baalbek) ประเทศเลบานอน เป็นประติมากรรมแบบโรมันที่น่าตื่นตาตื่นใจ มีความโอ่อ่าด้วยเสาสูงใหญ่ และหินแกรนิตเรียงต่อกันสูงราว 21 เมตร

บาลเบ็คตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศเลบานอน สถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นโดยชาวโรมัน ตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 1 โดยจุดประสงค์ในการสร้างก็เพื่อสักการะเทพเจ้าโรมัน 3 พระองค์ ซึ่งก็คือ เทพจูปิเตอร์ เทพบาคคัส และเทพีวีนัส

สร้างขึ้นเมื่อค.ศ. 150 ในรัชสมัยของจักรพรรดิอันโตนินัส ไพอัส ผู้มาเยี่ยมเยือนในสมัยฟื้นฟูคลาสสิค ให้ชื่อว่า “เทวสถานสุริยา” และเป็นเทวสถานที่อยู่ในสภาพที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของสถาปัตกรรมโรมัน

กลุ่มโบราณสถานที่เป็นวิหารประกอบด้วย วิหารเทพเจ้าจูปีเตอร์ที่ชาวโรมันสร้างขึ้นเพื่อถวายแด่เทพเจ้า Jupiter บิดาแห่งเทพเจ้าทั้งปวง เป็นวิหารขนาดใหญ่มหึมา มีความยาว 274 เมตร มีเสาขนาดความสูง 22 เมตร (สูงที่สุดในโลก) ล้อมรอบ 54 ต้น ปัจจุบันเหลือเพียง 6 ต้น ปัญหาจากแผ่นดินไหว และถูกนำไปใช้งานที่อื่น อาทิ โบสถ์เซนต์โซเฟียที่อิสตันบูล 8 ต้น

วิหารอีกแห่งหนึ่งชื่อ วิหารบัคคัส มีขนาดเล็กกว่าจูปีเตอร์ แต่ก็ยังใหญ่กว่าวิหาร Panthenon ที่เอเธนส์ สร้างถวายแด่เทพเจ้า Bacchus  เทพเจ้าแห่งเหล้าไวน์ และวิหารเทพ Venus  วิหารแห่งนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นผลงานในแบบคอรินเธียนที่งดงามที่สุดในโลก

ความยิ่งใหญ่ของมหาวิหารที่นี่จะเห็นได้จาก ซากหินแกรนิตที่นำมาจากอียิปต์ เป็นหินตัดที่ใหญ่ที่สุดในโลก ความยาว 27.5 เมตร กว้าง 4.2 เมตร ลึก 4.2 เมตร น้ำหนักกว่า 1,000 ตัน ได้รับการคัดเลือกให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 1984

ก้อนหินใหญ่ ฮัจจาร์ อัล ฮิบลา

มีเหมืองหินแห่งหนึ่ง ที่อยู่ใกล้ๆกับมหาวิหารทั้งสาม (Roman temple complex  หรือ  trilithon) เข้าใจว่าจะเป็นสถานที่สำหรับเตรียมก้อนหินและเสาหินในการก่อสร้าง ที่นั่นเราได้เห็นก้อนหินขนาดมหึมาจริงๆ เป็นหินก้อนเดียว megalithic stone และพบว่ามีอยู่หลายก้อนที่มีขนาดใกล้เคียงกัน 

หินก้อนนี้ ถูกพบอย่างบังเอิญในหลุมขยะ โดยลุงแก่ๆคนหนึ่ง ในปี 1993  ในสภาพที่สกปรกมาก เมื่อทำความสะอาดและขุดลึกลงไปในดินที่กลบอยู่ จึงพบว่าเป็นของที่น่าพิศวงที่สุด เป็นแท่งหินที่ตัดแล้ว รูปทรงสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่

Hajjar al-Hibla เป็นชื่อเรียกหินใหญ่ก้อนนี้ ปัจจุบันกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวโบราณสถานที่มีชื่อเสียง สุภาพสตรีนิยมไปวางมือแตะที่ก้อนหินและขอพรให้มีลูกเยอะๆ จึงเรียกขานกันว่า Stone of Pregnant Woman

แต่ก็มีตำนานอื่นๆอีก เช่น บอกว่าหญิงตั้งครรภ์คนหนึ่ง มาทำให้ผู้คนเชื่อว่าเธอสามารถเขยื้อนก้อนหินใหญ่นี้ได้ หากเธอได้รับบริจาคอาหารจนกระทั่งลูกในครรภ์คลอดออกมา หรือ บ้างก็เล่าว่าเป็นเพราะหญิงตั้งครรภ์ได้ถูกใช้เป็นแรงงานในการตัดแต่งก้อนหินนี้

ตอนที่ 10 เที่ยวเมืองไทร์