27 มีนาคม 2563
ถึง พี่น้องเครือข่ายศูนย์ประสานงานภาคีการพัฒนาจังหวัด ทุกพื้นที่
1. วันแรกที่รัฐบาลเริ่มบังคับใช้ พรก.ฉุกเฉิน เพื่อรับมือกับวิกฤติการณ์โควิด-19 มีมาตรการรูปธรรมในด้านต่างๆ ประกาศออกมากมาย พวกเราควรติดตาม ดูเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องก็พอ ต่อไปคงมีออกมาเพิ่มเป็นรายวัน เพราะสถานการณ์การระบาดทั่วโลก (นอกประเทศจีน) ยังคงพุ่งทะยานไม่หยุด จากจุดตั้งต้น ผู้ป่วยสะสม 1 แสนคนแรกการระบาดใช้เวลา 67 วัน ต่อมาแสนที่ 2 ใช้เวลา 11 วัน และล่าสุดแสนที่ 3 ใช้เวลาเพียง 4 วันเท่านั้น ส่วนในประเทศไทยของเรายังมีผู้ป่วยรายใหม่ต่อวันสูงเป็นหลักร้อย และที่สำคัญสังคมไทยตื่นตระหนกและโกลาหล
2. เมื่อ 16 มีนาคม 2563 ท่านนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้นำประเทศ ได้ประกาศแนวทางและขอความร่วมมือจากประชาชน ซึ่งเป็นสัญญาณที่พวกเราเครือข่ายชุมชนเข้มแข็งและประชาสังคมทั่วประเทศจะต้องจับประเด็นให้ได้ และนำไปชี้แนะชี้นำประชาชนในแต่ละพื้นที่ของตน ดังนี้
- งดการเดินทางไปต่างประเทศในช่วงเวลานี้
- กรณีกลับจากกลุ่มประเทศเสี่ยงต้องกักตัวอย่างเคร่งครัด 14 วัน
- รักษาสุขอนามัยส่วนตัว เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
- หลีกเลี่ยงการไปสถานที่แออัด อากาศถ่ายเทไม่สะดวก เพราะมีโอกาสจะแพร่เชื้อ หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ ควรสวมหน้ากากอนามัย
- อย่ากักตุนสิ่งของ อย่าวิตกกังวลจนเกินไป ขอให้มีความเชื่อมั่นในรัฐบาล
- ขอความร่วมมือผู้ที่ยังไม่มีอาการ ไม่มีประวัติเสี่ยงติดเชื้อ และแพทย์วินิจฉัยแล้วว่ายังไม่มีความจำเป็นต้องตรวจ ก็ขอให้สังเกตอาการต่อไป เพื่อไม่สิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย และจะได้มีชุดตรวจเพียงพอสำหรับผู้ที่จำเป็นต้องใช้จริงๆ เท่านั้น
- ขอความร่วมมือหยุดการกระจายข่าวที่ไม่เป็นความจริง สร้างความแตกตื่นให้ประชาชน และก่อนจะมีการกระจายข่าวใดๆ ขอให้มีการตรวจสอบความถูกต้องก่อน
3. เราคือพลเมืองอาสา เครือข่ายของเราทำงานส่งเสริมชุมชนท้องถิ่นและประชาสังคมอยู่ในทุกจังหวัด-อำเภอทั่วประเทศ ถึงเวลาที่ต้องขับเคลื่อนพลังชุมชนเข้าไปหนุนเสริมแม่ทัพด้านสาธารณสุขและเจ้าหน้าที่บ้านเมือง เพื่อควบคุมสถานการณ์โรคระบาดไม่ให้บานปลาย ลดความสูญเสียและผลกระทบทางสุขภาพและสังคมให้ได้มากและเร็วที่สุด
4. ในขณะเดียวกัน พึงตระหนักว่าในขณะนี้เรายังมีปัญหา “ภัยแล้ง”ที่กำลังแผ่ขยายในวงกว้างมากและคาดว่าน่าจะรุนแรงกว่าปีก่อนๆ นอกจากนั้นแล้ว “ผลกระทบจากโควิด-19” ที่มีต่อระบบเศรษฐกิจโลกเป็นปัญหาขนาดใหญ่มากที่ประเทศและชุมชนของเราจะต้องเผชิญหน้าและแบกรับภาระกันไปอีกไม่ต่ำกว่า 2-3 ปีข้างหน้า
5. ดังนั้น ในโอกาสนี้ ผมจึงขอเรียนเสนอว่า พวกเราควรจะใช้ประเด็นงาน “โรคระบาด-ภัยแล้ง-ข่ายนิรภัยสังคม-เศรษฐกิจฐานราก” เป็นประตูเข้า (Entry Point) ที่จะนำไปสู่การสานพลังความร่วมมือจากทุกฝ่าย เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการพึ่งตนเอง จัดการปัญหาได้ด้วยตัวเอง ยิ่งทดสอบ ชุมชนยิ่งเข้มแข็ง
“ อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ”
เราจะนำพาชุมชนและสังคมเล็กๆของเรา ผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปด้วยกันนะครับ.
นายแพทย์ พลเดช ปิ่นประทีป
ประธานมูลนิธิพัฒนาประชาสังคม

