รายงานประชาชน โดย ส.ว.พลเดช (ฉบับที่ 94) “รูปธรรมปฏิรูปการเมือง”

ท่ามกลางสถานการณ์ความแตกแยกและความรุนแรงทางการเมืองในปี 2563/2564 คณะกรรมาธิการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา ได้ทำการติดตาม เสนอแนะและเร่งรัดการดำเนินงานตามแผนปฏิรูปประเทศด้านการเมืองอย่างใกล้ชิด แต่กลับพบว่าในรายงานทุกรอบ 3 เดือน ยังไม่มีข้อมูลที่สะท้อนการแก้ปัญหาเท่าที่ควร

รายงานประชาชน โดย ส.ว.พลเดช (ฉบับที่ 94) “รูปธรรมปฏิรูปการเมือง”

ในแผนปฏิรูปการเมือง กำหนดเป้าหมายใหญ่ไว้ 4 ประการ คือ 1)ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจในการปกครองระบอบประชาธิปไตยฯ 2)ประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมือง 3)การเมืองมีเสถียรภาพร่วมทางการเมือง 3)การเมืองมีเสถียรภาพ 4)พรรคการเมืองและนักการเมืองยึดมั่นประโยชน์ประเทศชาติ ประชาชน  

สำหรับตัวชี้วัดเป้าหมายที่จะใช้ติดตาม มี 2 อย่าง คือ 1) ผลการประเมินสถานการณ์ประชาธิปไตยของประเทศโดยสถาบันพระปกเกล้า ล่าสุดในปี 2562 มีคะแนนประเมิน 58.41(คะแนนเต็ม 100)  และ 2) Democracy Index ที่ได้มาจากการประเมินของสถาบันวิชาการต่างประเทศ  ซึ่งปี 2563  the Economist Intelligence Unit ประเมินประเทศไทยด้วยคะแนน  6.04 (คะแนนเต็ม 10.0)  

สำหรับประชาชนทั่วไป ใครที่รับทราบข้อมูลแบบนี้แล้ว คงนึกไม่ออกว่าปัญหาความแตกแยกทางการเมือง การซื้อสิทธิ์ขายเสียงและทุจริตคอร์รัปชั่นที่เห็นกันอยู่คาตาในวันนี้ มันจะดีขึ้นได้อย่างไร   

ในคราวหนึ่ง เลขาธิการ กกต.ได้เข้ามาเสนอรายงานต่อที่ประชุมกรรมาธิการพัฒนาการเมืองฯ วุฒิสภา ว่า “หัวใจของแผนปฏิรูปประเทศด้านการเมือง มี 2 อย่าง คือ มุ่งเปลี่ยนประชาชนให้เป็นพลเมือง และ มุ่งเปลี่ยนพรรคการเมืองให้เป็นประชาธิปไตยภายในพรรค”

ปัจจุบัน รัฐบาลได้ปรับปรุงแผนปฏิรูปประเทศด้านการเมือง โดยกำหนดให้มีงานที่จะสร้างผลกระทบสำคัญ 5 อย่าง (Big Rocks) และ มีกฎหมายที่จะผลักดัน 2 ฉบับ ดังนี้

1.การส่งเสริมความรู้ทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีตัวชี้วัดเป้าหมาย 4 อย่าง คือ 1) คะแนนด้านการเคารพสิทธิ เสรีภาพและหน้าที่เพิ่มขึ้น 2)คะแนนด้านการยึดมั่นในหลักนิติธรรมเพิ่มขึ้น 3)คะแนนด้านการมีส่วนร่วมของประชาชนเพิ่มขึ้น 4)คะแนนด้านการสนับสนุนประชาธิปไตยเพิ่มขึ้น 

2.การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในกระบวนการนโยบายสาธารณะทุกระดับ มีตัวชี้วัดเป้าหมาย 2 อย่าง คือ 1)ร้อยละของเรื่องร้องทุกข์-ความคิดเห็นต่อโครงการรัฐได้รับการดำเนินการจนได้ข้อยุติ 2) คะแนนการมีส่วนร่วมของประชาชนจากการประเมินความเป็นประชาธิปไตยเพิ่มขึ้น

3.การสร้างความสามัคคีปรองดองของคนในชาติ  ตัวชี้วัดเป้าหมาย คือ 1)มีข้อเสนอแนวทาง กลไกและมาตรการปรองดอง สมานฉันท์ ขจัดความขัดแย้ง จากงานวิจัยของสถาบันพระปกเกล้า

4. การส่งเสริมการพัฒนาพรรคการเมือง ตัวชี้วัดเป้าหมาย ได้แก่ 1) จำนวนสมาชิกพรรคการเมืองทั้งหมดเพิ่มขึ้น 2) จำนวนสาขาพรรคการเมืองทั้งหมดเพิ่มขึ้น 3) จำนวนตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดทั้งหมดเพิ่มขึ้น

5. การปรับปรุงโครงสร้างและเนื้อหาของรัฐธรรมนูญเพื่อการปฏิรูป ตัวชี้วัดเป้าหมายคือ 1)มีข้อเสนอที่ระบุโครงสร้างและเนื้อหาที่ตั้งอยู่บนหลักฐานข้อมูลเชิงประจักษ์และเชิงวิชาการ

ในภาพรวม ผมมีข้อเสนอแนะส่วนตัวว่าควรเพิ่มเติมตัวชี้วัดที่ประชาชนอยากเห็น เช่น 1) สถิติข้อมูลจำนวนเหตุการณ์และคดีที่เกี่ยวกับการปลุกระดมล้มเจ้า-เปลี่ยนระบอบ 2)สถิติการเลือกตั้งท้องถิ่น จำนวนผู้สมัคร ผู้ได้รับการเลือกตั้ง ผู้ใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ความผิดคดีเลือกตั้งท้องถิ่น  

ส่วนการปฏิรูปการเมืองในระยะ 24 ปีที่ผ่านมา มีความเห็นว่าที่ยังไม่ประสบความสำเร็จเพราะเอาแต่เพ่งเล็งที่การแก้กฎกติกาการเลือกตั้งและตัวรัฐธรรมนูญ โดยไม่กล้าที่จะกล่าวถึงปัญหาจากพฤติกรรมของนักการเมืองและประชาชนผู้เลือกพวกเขา ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญเร่งด่วนยิ่งกว่า จึงเห็นว่าเป็นการเดินที่ผิดทิศทาง.

ส่วนในเรื่องการผลักดันกฎหมาย มี 2 ฉบับนั้นเห็นตรงกัน ได้แก่  1)ร่าง พรบ.ว่าด้วยการเสริมสร้างวัฒนธรรมทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย 2)ร่าง พรบ.การมีส่วนร่วมของประชาชนในกระบวนการนโยบายสาธารณะ .

นพ.พลเดช ปิ่นประทีป / 22 ก.ย. 2564