ถึง เครือข่ายผู้นำองค์กรชุมชน ภาคประชาสังคมและเครือข่ายท้องถิ่น-ท้องที่วิถีใหม่ ทุกจังหวัด

การเลือกตั้ง อบต. ทั่วประเทศในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2564 ทำให้บรรยากาศการเลือกตั้งคึกคักขึ้นอีกครั้ง
การเลือกตั้งท้องถิ่น ด้านหนึ่งเป็นกระบวนการเปลี่ยนผ่านผู้นำผู้บริหารท้องถิ่นตามวิถีการเมืองแบบประชาธิปไตย อีกด้านหนึ่งเป็นโอกาสการเรียนรู้และฝึกฝนวัฒนธรรมประชาธิปไตยของประชาชนด้วยการปฏิบัติ ใช้อำนาจจริงที่อยู่ในมือ รวมทั้งเรียนรู้ประสบการณ์จากผลการใช้อำนาจครั้งนั้นด้วยตนเอง
มีนักวิจัยและสื่อมวลชนเคยวิเคราะห์ปัจจัยที่ทำให้ชนะเลือกตั้งในระดับชาติไว้หลายประการ ในฐานะของนักพัฒนา ผู้ปฏิบัติ สรุปปัจจัยที่มีผลต่อการแพ้-ชนะเลือกตั้งไทย 5 ประการ ดังนี้
1. เงินและระบบหัวคะแนน
ปัจจุบันนักการเมืองระดับชาติและท้องถิ่น มุ่งใช้ “เงินและระบบหัวคะแนน” เป็นปัจจัยชี้ขาดชัยชนะการเลือกตั้ง ในทุกพื้นที่ ทุกระดับ ผู้นำท้องถิ่นและท้องที่จึงเป็นตัวแสดงสำคัญที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือ เป็นระบบอุปถัมภ์ที่เป็นส่วนหนึ่งของ “บ้านใหญ่”
ส่วนการเมืองวิถีใหม่ เป็นการเมืองเชิงศีลธรรม หลักการสำคัญประการหนึ่ง คือ “ไม่ใช้เงินไปสู้เงิน” แต่ต้องใช้ “พลังเครือข่าย (ความดี)” และ “ผู้นำ (คุณธรรม)”ไปเอาชนะสถานการณ์และความท้าทายนี้ให้จงได้
เครือข่ายเป็นความสัมพันธ์ระหว่าง “คนกับคน” ที่ผูกพันกันด้วย “ใจกับใจ”. การเข้าถึงและสร้างความเชื่อถือศรัทธาในหมู่ผู้นำตามธรรมชาติ (ผู้ชุมชนและองค์กรชุมชน) จะเกิดการเชื่อมโยงเป็นพลังเครือข่ายคุณธรรมความดี เป็นกระแสที่ก่อตัวในระดับจุลภาคที่ลึกลงไปถึงจิตสำนึกและวิธีคิดของผู้นำ
ผู้นำตามธรรมชาติเป็นสื่อบุคคลที่สำคัญในชุมชน เป็นผู้มีอิทธิพลทางความคิดในท้องถิ่น (Influencer) เมื่อพวกเขาเชื่อมโยงสื่อสารไปถึงจุดกระตุ้น “มโนธรรมสำนึก” ที่มีอยู่ในหมู่ชาวบ้าน จะสร้างการเปลี่ยนแปลงจากฐานล่างในแบบที่คาดไม่ถึง
2. นโยบายที่โดน
นโยบายในการหาเสียงที่โดนใจประชาชน เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่เคยทำให้บางพรรคการเมืองชนะการเลือกตั้งแบบถล่มทะลาย จนสามารถจัดตั้งรัฐบาลมาแล้ว และครองความนิยมได้อย่างยาวนาน
นโยบายที่ตรงกับปัญหาและความต้องการของชาวบ้านในสถานการณ์ขณะนั้น นโยบายที่ประชาชนมีส่วนร่วมเป็นเจ้าของ หรือนโยบายที่เป็นความใฝ่ฝันของมวลชน และเป็นนโยบายที่ชาวบ้านเชื่อถือว่าสามารถทำได้และจะได้ทำจริง
3. ตัวบุคคลที่ใช่
ผู้นำที่เสนอตัวแล้วประชาชนเห็นว่าใช่เลย มักเป็นผู้มีผลงานแบบปิดทองหลังพระ เป็นจิตอาสา ทำงานสาธารณะอย่างเสมอต้นเสมอปลาย ชาวบ้านสัมผัสรับรู้ความดีงามมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน
ยิ่งถ้าเป็นลูกหลาน เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขก็ยิ่งได้เปรียบ ผู้รักชุมชน รักบ้านเกิดเมืองนอน ผู้มีความรู้ความสามารถ ประสบความสำเร็จในชีวิตการงาน เป็นผู้มีจิตใจดี ใจกว้าง สุภาพ เป็นมิตร
4. เข้าถึงกลุ่มประชากรเป้าหมาย
การเลือกตั้ง ปี 2562 มีตัวอย่างพรรคการเมืองหนึ่งที่มุ่งเป้าเข้าหากลุ่มผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งครั้งแรก และคนหนุ่มสาวที่ไม่เคยผูกพันกับการซื้อสิทธิ์ขายเสียงมาก่อน เป็นกลุ่มที่เบื่อการเมืองแบบเก่า เบื่อผู้นำคนเดิม ต้องการตัวเลือกใหม่ เขาใช้สื่อโซเชียลเป็นช่องทาง สามารถชนะการเลือกตั้งจำนวนมาก ทั้งจากเขตเลือกตั้งและแบบบัญชีรายชื่อ จนกลายเป็นพรรคการเมืองขนาดใหญ่
ยังมีกลุ่มก้อนของประชากรอีกหลายรูปแบบที่รอการเข้าถึง เช่น กลุ่มผู้นำชุมชนเชิงคุณธรรม เครือข่ายผู้มีอิทธิพลทางความคิด รวมทั้งกลุ่มชุมชนคนชายขอบ ใครเข้าไปนั่งในหัวใจอาจมีคะแนนที่เป็นกอบเป็นกำ
5. กระแสที่ร้อนแรง
กระแสสังคมสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งในระดับชาติและระดับชุมชนท้องถิ่น อาจเป็นกระแสพรรค กระแสกลุ่ม-องค์กร กระแสเครือข่าย กระแสนโยบาย และกระแสผู้นำ นี่เป็นปัจจัยเกื้อหนุนที่อาจทำให้ ม้ามืด หรือ มวยรองบ่อน สามารถพลิกสถานการณ์กลับมาเป็นผู้ชนะ.
นายแพทย์ พลเดช ปิ่นประทีป
สมาชิกวุฒิสภา / 9 ตุลาคม 2564