คณะกรรมาธิการการแก้ปัญหาความยากจนฯ วุฒิสภา มีข้อเสนอแนวนโยบายพุ่งเป้าตัดวงจรความยากจนข้ามรุ่น โดยขยายนวัตกรรมเครือข่ายโรงเรียนร่วมพัฒนา สร้างพลเมืองรุ่นเยาว์ เพื่อการพิจารณาของรัฐบาล พรรคการเมือง และสาธารณชน ดังนี้

Table of Contents
1. เป้าหมาย
ขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาชุมชนตามแนวนโยบายประเทศไทย 4.0 ขยายนวัตกรรมเครือข่ายโรงเรียนร่วมพัฒนาออกไปอย่างน้อยจำนวน 1,000 แห่ง โดยเน้นการครอบคลุมทุกอำเภอในพื้นที่ 13 จังหวัดยากจน รวมทั้งกระจายไปในจังหวัดอื่นตามความพร้อม จัดระบบการศึกษาฐานสมรรถนะ (Competency Based Education) สร้างพลเมืองรุ่นเยาว์ที่มีคุณภาพ (Civic Education) มีทักษะชีวิต มีทักษะอาชีพ และความรู้ตามหลักสูตรพื้นฐาน เป็นฐานรองรับนโยบายการแก้ปัญหาความยากจนข้ามรุ่น
2. โรงเรียนปฏิรูปการศึกษาเพื่อชุมชน คือ อย่างไร
โรงเรียนปฏิรูปการศึกษาเพื่อชุมชน
เป็นผลผลิตและนวัตกรรมการศึกษาจากโครงการโรงเรียนร่วมพัฒนา (Partnership School Project) ที่เกิดจากความริเริ่มของรัฐบาลตามนโยบายประเทศไทย 4.0 เมื่อปี 2561 เป็นการพัฒนารูปแบบการจัดการศึกษาแบบใหม่ (Sand box) โดยมอบหมายให้นายมีชัย วีระไวทยะและสมาคมพัฒนาประชากรและชุมชน (PDA) เป็นผู้บุกเบิก
เป็นรูปแบบนวัตกรรมทางสังคมในด้านการศึกษาที่บังเกิดผลสัมฤทธิ์ในเชิงประจักษ์ จนเป็นที่ยอมรับว่าเป็นแนวทางการปฏิรูปการศึกษาชุมชนที่เป็นรูปธรรมและมีประสิทธิภาพ ปัจจุบันมีเครือข่ายโรงเรียนร่วมพัฒนาจำนวน 195 แห่งในพื้นที่ 52 จังหวัด และกำลังอยู่ระหว่างการริเริ่มดำเนินการอีก 108 แห่งใน 22 จังหวัด
โมเดลโรงเรียนร่วมพัฒนา
มีลักษณะสำคัญประกอบด้วย การปฏิรูปการศึกษาโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน, การเปลี่ยนกระบวนการเรียนการสอนแบบฐานความรู้มาเป็นแบบฐานสมรรถนะ, การมุ่งอบรมบ่มสอนให้เด็กนักเรียนมีจิตสำนึกเพื่อส่วนรวม เอื้ออาทร เคารพผู้อื่น เป็นประชาธิปไตย มีทักษะชีวิต ทักษะอาชีพ และมีความรู้ตามหลักสูตรพื้นฐานโดยครบถ้วน,
การเปลี่ยนโรงเรียนจากที่เคยเป็นสถานที่ศึกษาของเด็กนักเรียนไปเป็นศูนย์การเรียนรู้การพัฒนาคุณภาพชีวิตชุมชนของคนทุกวัย, และการบริหารจัดการมีความเป็นอิสระ คล่องตัวในรูปแบบของความร่วมมือระหว่างภาคเอกชน ประชาสังคมและภาครัฐ.
กระบวนการขับเคลื่อน
ประกอบด้วย 8 กิจกรรมสำคัญ ดังนี้
- เชื่อมโยงการปฏิรูปโรงเรียนกับขบวนการชุมชนเข้มแข็งที่อยู่โดยรอบ
- ฝึกอบรมครู นักเรียน ผู้บริหารโรงเรียน และผู้นำชุมชนให้มีความเข้าใจกระบวนการ
- สนับสนุนเครื่องมือและอุปกรณ์
- จัดตั้งแปลงเกษตรที่ทันสมัยในโรงเรียนและในชุมชน โดยหลักการเป็นการเกษตรที่ใช้ดินน้อย น้ำน้อย แรงงานน้อย ราคาดี
- ส่งเสริมให้นักเรียนมีทักษะการเป็นผู้ประกอบการรุ่นเยาว์ มีรายได้ระหว่างเรียน จัดตั้งกองทุนเงินออมของนักเรียนเพื่อสนับสนุนกิจการของนักเรียน
- จัดตั้งกองทุนเงินออมของชุมชน สนับสนุนการลงทุนของชาวบ้าน
- สร้างความั่นคงทางอาหาร เพิ่มรายได้ให้กลุ่มผู้สูงอายุในชุมชน
- ดูแลระบบสาธารณสุข สุขภาพอนามัยและสิ่งแวดล้อมในชุมชน
3. เสริมสร้างพันธมิตรระหว่างเครือข่ายโรงเรียนร่วมพัฒนา ประชาสังคมจังหวัดและชุมชนท้องถิ่น
โรงเรียนกลุ่มเป้าหมาย เป็นผู้ขับเคลื่อนหลักในการปฏิรูปเปลี่ยนแปลงกระบวนการเรียนการสอนในโรงเรียน โดยมีความร่วมมือของภาคีต่างๆในพื้นที่เป็นฝ่ายสนับสนุน อันได้แก่ ภาคประชาสังคมจังหวัด ภาคธุรกิจเอกชนและส่วนราชการในพื้นที่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เครือข่ายชุมชน และพลังบ้าน-วัด-โรงเรียน
ทุกฝ่ายร่วมมือกันโดยมีเป้าหมายและความใฝ่ฝันที่ยิ่งใหญ่ร่วมกัน ในที่สุดอาจเกิดการก่อตัวกลายเป็น “ขบวนประชาคมจังหวัดเพื่อการปฏิรูปการศึกษาชุมชน” ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น เป็นกลไกขับเคลื่อนการปฏิรูประบบการศึกษาโดยประชาชนจากฐานล่าง ตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ
4. พัฒนาระบบทุนการศึกษาสำหรับเด็กยากจน
เพื่อสนับสนุนให้เด็กยากจนจากครอบครัวที่ยากลำบากมีโอกาสได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพแนวใหม่นี้ ภาคประชาสังคมจังหวัดและองค์กรภาคี ควรจัดให้มีระบบทุนการศึกษาแนวใหม่ โดยมีภารกิจในการค้นหาเด็กยากจนและด้อยโอกาส และจัดหาทุนการศึกษาให้แก่เด็กเหล่านี้ได้เข้าเรียนในโรงเรียนปฏิรูปการศึกษาเหล่านี้ อย่างเพียงพอและต่อเนื่องตลอดเส้นทางการศึกษาของพวกเขา โดยทุนการศึกษานี้สามารถครอบคลุมค่าใช้จ่ายด้านต่างๆ รวมทั้งเงินสนับสนุนการพัฒนาและบริหารกิจการของโรงเรียนแนวใหม่ด้วย
5. การสนับสนุนจากภาครัฐ
รัฐบาล โดยกระทรวงศึกษาธิการ และกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ควรทำบทบาทหลักในการสนับสนุนการขับเคลื่อนนี้ โดยนอกจากการสนับสนุนเชิงนโยบายแล้ว ควรจัดให้มีแผนงาน โครงการ และงบประมาณสนับสนุนกระบวนการจัดการความรู้ เพื่อการขยายเครือข่ายและสร้างนวัตกรรมการปฏิรูปการศึกษาในระดับปฏิบัติการ.
6. ตัวชี้วัด
- จำนวนโรงเรียนปฏิรูปการศึกษาเพื่อชุมชน (โรงเรียนร่วมพัฒนา) ในภาพรวม
- การกระจายตัว และความครอบคลุมพื้นที่ 168 อำเภอ และ 13 จังหวัดยากจนที่เป็นเป้าหมาย
- จำนวนนักเรียนและชุมชนที่ได้รับประโยชน์จากเครือข่ายโรงเรียนร่วมพัฒนา
โดย ส.ว.พลเดช ปิ่นประทีป, 20 ม.ค. 2566