คณะกรรมาธิการการแก้ปัญหาความยากจนฯ วุฒิสภา มีข้อเสนอเชิงนโยบายการพุ่งเป้านำพาครัวเรือนยากจนและผู้ยากลำบาก สำหรับกลุ่มที่ยังมีสุขภาพกาย-สุขภาพจิตอำนวย มีทัศนคติและพฤติกรรมเอื้อต่อการพัฒนา
ให้นำเข้าสู่แนวทางและโครงการพัฒนาศักยภาพและการประกอบอาชีพ ให้หลุดพ้นจากจากสภาวะความยากจนเป็นรายครัวเรือน

1. เป้าหมาย
พุ่งเป้านำพาครัวเรือนยากจนและถูกทอดทิ้งในทุกจังหวัดทั่วประเทศก้าวพ้นความยากจน. มีหลักประกันในด้านอาหาร เสื้อผ้าเครื่องนุ่งหม ที่อยู่อาศัย ยารักษาโรค (ปัจจัย 4) รวมทั้งสาธารณูปโภคด้านพลังงานไฟฟ้าและน้ำสะอาด. เข้าถึงสวัสดิการรัฐและสวัสดิการชุมชน. มีกัลยาณมิตรและชุมชนเข้มแข็ง.
2. ระบุครัวเรือนยากจนและผู้ยากลำบากให้ชัดเจน
ในขั้นแรก ค้นหาและระบุตัวคนจนและครัวเรือนยากจนโดยใช้มาตรฐานเส้นความยากจน (Poverty Line) ข้อมูล กชช.2ค. และดัชนีวัดการพัฒนามนุษย์ (Human Achievement Index – HAI) เป็นแนวทางในการกลั่นกรองและวินิจฉัยความยากจนในระดับชุมชน ท้องถิ่นและพื้นที่ภูมิภาคต่างๆ ใช้ จปฐ. เป็นเครื่องมือประเมินระดับความยากจนของครัวเรือน และใช้ข้อมูลการขึ้นทะเบียนคนจนและ TPMAP ในการคัดกรองอย่างคร่าวๆว่าใครคือกลุ่มเป้าหมายที่ควรได้รับการช่วยเหลือจากรัฐ
ขั้นสุดท้ายใช้กระบวนการทางสังคมโดยชุมชนท้องถิ่นมีส่วนร่วม ในลักษณะเดินสำรวจไปด้วยกัน ทำงานกันแบบทีมจิตอาสาที่ผสมผสาน และทำไปอย่างพร้อมเพรียงกันในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยมีตัวชี้วัดเชิงปฏิบัติการ
“ตัวชี้วัดขาเข้า” ได้แก่
- ขาดแคลนปัจจัย 4 คือ อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัยและยารักษาโรค
- ที่พักอาศัยไม่มีไฟฟ้าและน้ำประปาใช้ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งชุมชนในเมือง และ กทม.)
- ไม่มีสันติสุข ขาดความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สิน (โดยเฉพาะอย่างยิ่งชุมชนชายแดนใต้)
- มีรายได้สุทธิ** ต่ำกว่า 83 บาท/คน/วัน
- ขาดกัลยาณมิตร-ชุมชนเข้มแข็ง
สำหรับการพ้นสภาวะครัวเรือนยากจน หรือ “ตัวชี้วัดขาออก” ที่ใช้เป็นประเด็นและเกณฑ์ประเมินความหลุดพ้นจากภาวะ “ครัวเรือนยากจน” ทั้งในระหว่างและภายหลังการปฏิบัตงานของทีมจิตอาสา ได้แก่
- มีหลักประกันในด้านปัจจัย 4 (อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย ยารักษาโรค)
- ที่พักอาศัยมีไฟฟ้าและน้ำประปาใช้ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งชุมชนในเมืองและกทม.)
- มีสันติสุข ขาดความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สิน (โดยเฉพาะอย่างยิ่งชุมชนชายแดนใต้)
- มีรายได้สุทธิ*** มากกว่า 100 บาท/คน/วัน
- มีกัลยาณมิตร-ชุมชนเข้มแข็ง
หมายเหตุ รายได้สุทธิ** หมายถึง รายได้จริง หักด้วยรายจ่ายประเภทชำระหนี้สินประจำวัน ซึ่งเป็นส่วนใช้จ่ายในการยังชีพประจำวัน ซึ่งทั้งหมดนี้อาจไม่ใช่ตัวเงิน แต่สามารถประเมินด้วยมูลค่าผลผลิตหรือการหาอาหารได้มาเพื่อการยังชีพสำหรับ 1 วัน
3. ถักทอเครือข่ายจิตอาสา ค้นหากลุ่มเป้าหมายอย่างแม่นยำ
ถักทอเครือข่ายจิตอาสาโดยใช้พื้นที่อำเภอเป็นฐาน ทีมละ 3-5 คน องค์ประกอบล้วนเป็น “ผู้ที่แข็งแรง” และมีใจอาสาสมัครช่วยเหลื่อเพื่อนบ้าน “ผู้ยังอ่อนแอ” จัดกระบวนการฝึกอบรมก่อนปฏิบัติการ
ค้นหากลุ่มเป้าหมาย “ที่ใช่” ด้วยวิธีเดินเท้าสำรวจชุมชนอย่างละเอียด วิเคราะห์ 3 กลุ่มเป้าหมาย
กลุ่มที่ 1 สุขภายกาย-สุขภาพจิตไม่อำนวย
กลุ่มที่ 2 สุขภาพกาย-สุขภาพจิตอำนวย แต่ทัศนคติและพฤติกรรมไม่เอื้อ แนวทางการช่วยเหลือสำหรับสองกลุ่มนี้ คือ เป็นพี้เลี้ยง ประสานหน่วยงานและองค์กรวิสาหกิจชุมชนที่เกี่ยวข้อง นำพาพวกเขาให้เข้าถึงบริการสาธารณะของรัฐและสังคมให้ได้มากที่สุด
ส่วนกลุ่มที่ 3 สุขภาพกาย-สุขภาพจิตอำนวย ทัศนคติและพฤติกรรมก็เอื้อ ให้นำเข้าสู่แนวทางและโครงการพัฒนาศักยภาพและการประกอบอาชีพเพื่อการเอาชนะความยากจนแบบพุ่งเป้าต่อไป
3. จับคู่ จัดระบบพี่เลี้ยงจิตอาสา
การค้นหาและเชิญชวน “พี่เลี้ยงที่ใช่” สำหรับทำหน้าที่เป็น “กัลยาณมิตร”ประกบคู่ กับครัวเรือนยากจนแบบ 1 ต่อ 1 หรือเป็นกลุ่มเช่น 3 ต่อ 3 พี่เลี้ยงต้องเป็นผู้มีจิตอาสา สมัครใจ มีเวลาให้ มีฐานะทางเศรษฐกิจมั่นคงแข็งแรง มีประสบการณ์ความรู้ในการประกอบสัมมาชีพและความสำเร็จในหน้าที่การงานเป็นที่รู้จักและยอมรับในสังคมท้องถิ่น
เริ่มจากการช่วยกันจัดทำบัญชีครัวเรือนให้มีรายละเอียดมากขึ้น ทั้งข้อมูลเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ ทั้งในด้านรายได้ รายจ่าย หนี้สิน เงินออม ที่ดินทำกิน ที่พักอาศัย ปัจจัยสี่ สาธารณูปโภค ความรู้ ความชำนาญ ประสบการณ์ชีวิต สุขภาพ เครือญาติ เพื่อนบ้าน ฯลฯ
จัดทำโครงการรูปธรรมใน “ขนาดจิ๋ว” เพื่อพัฒนาศักยภาพในการทำมาหากินและประกอบอาชีพ เป็นโครงการเฉพาะครัวเรือน ที่มีความเป็นไปได้ ใช้งบประมาณน้อย อันอยู่ในวิสัยที่จะระดมทุนรับบริจาคหรือขอรับการสนับสนุนจากหน่วยงานท้องถิ่นและองค์กรในพื้นที่ได้ง่าย
4. รัฐบาลจัดโครงการสนับสนุนการแก้ความยากจนแบบพุ่งเป้า
รัฐบาลจัดให้มีระบบงบประมาณสนับสนุนโครงการแก้จนรายครอบครัวของกลุ่มเป้าหมาย มีสำนักงานโครงการเป็นกลไกดำเนินงาน ให้มีสถานภาพเป็นโครงการพิเศษเฉพาะกิจของรัฐบาล ระยะเวลาดำเนินการไม่เกิน 5 ปี กรอบงบประมาณไม่เกิน 5,000 ล้านบาท เมื่อเสร็จภารกิจหรือหมดเวลาตามกำหนดแล้วให้ยุบตัวลงเพื่อมิให้เป็นภาระงบประมาณ
ให้กำกับดูแลโดยสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.)และกระทรวงการคลัง โดยมีสำนักงานบูรณาการเพื่อลดความเหลื่อมล้ำและแก้ความยากจน ที่รัฐบาลตั้งขึ้นมาแล้ว เป็นกลไกดำเนินการ มีองค์กรภาคี “ร่วมปฏิบัติการ” ที่หลากหลาย
อาทิ สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) ศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย กระทรวง อว. กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงวัฒนธรรม
รวมทั้งเครือข่ายสภาประชาสังคมไทย เครือข่ายสภาองค์กรชุมชน เครือข่ายชุมชนคุณธรรม เครือข่ายสภาวัฒนธรรม เครือข่ายธนาคารคลังสมอง มูลนิธิพัฒนาไท มูลนิธิพัฒนาประชาสังคม ฯลฯ
5. ตัวชี้วัด
- สำรวจทราบและจัดทำระบบฐานข้อมูลครัวเรือนยากจนและถูกทอดทิ้งที่แม่นยำในทุกจังหวัด
- สามารถนำพาครัวเรือนยากจนและถูกทอดทิ้งก้าวพ้นความยากจนได้ร้อยละ 80 ภายใน 5 ปี
โดย ส.ว.พลเดช ปิ่นประทีป, 27 ม.ค. 2566